ทำไมโปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีเมื่อเข้ามาไทยถึงราคาสูงขึ้น?
สรุปสาเหตุที่โปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีมีราคาสูงขึ้นในประเทศไทย
ราคาขายในไทยสูงกว่าหน้าโรงงานเกาหลีเพราะมีต้นทุนหลายช่วงของห่วงโซ่การนำเข้า-จำหน่าย ตั้งแต่ ภาษีและ VAT, ค่าขนส่ง (CIF), กระบวนการ อย./เอกสาร LPI, ไปจนถึง ต้นทุนการกระจายสินค้าและค่าบริการทางการแพทย์ ของคลินิก
1) โครงสร้างภาษี: อากรขาเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- อากรขาเข้า (Import Duty) คำนวณจาก CIF = ราคา + ประกันภัย + ขนส่ง ⇒ ค่าขนส่ง/ประกันยิ่งสูง ฐานภาษียิ่งสูง
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) คิดบนยอด CIF + อากร (อัตรา 7% ใช้ถึง 30 ก.ย. 2025 ณ วันที่ 26 ส.ค. 2025)
- สิทธิ FTA (Form AK) หากมีเอกสารถิ่นกำเนิดสินค้า สามารถลดหย่อน/ยกเว้น อากร ได้ แต่ VAT 7% ยังต้องชำระ
2) ค่าโลจิสติกส์และมูลค่า CIF
- ต้นทุนทบต้น: ค่าขนส่ง/ประกันเป็นทั้ง ต้นทุนโดยตรง และเป็น ฐานคำนวณภาษี
- ข้อกำหนดพิเศษ: ฟิลเลอร์ต้องควบคุมอุณหภูมิ/กันกระแทก ค่าบรรจุภัณฑ์และขนส่งสูงกว่าสินค้าทั่วไป
3) กระบวนการของ อย. และเอกสาร LPI
- ขึ้นทะเบียน อย. สำหรับเครื่องมือแพทย์ ก่อนนำเข้าและจำหน่ายจริง
- License per Invoice (LPI): ต้องยื่นทุกครั้งที่นำเข้าเพื่อผูกกับใบขน ⇒ มีต้นทุน/ใช้เวลา
- ค่าใช้จ่ายแฝง: แปลเอกสาร, ตรวจสอบ, ค่าที่ปรึกษากฎระเบียบ ฯลฯ
4) ต้นทุนการจัดจำหน่ายในประเทศและบริการของคลินิก
- หลังนำเข้า: คลังควบคุมอุณหภูมิ, ระบบติดตามล็อต (Traceability), ฝึกอบรมทีม, การตลาด
- ราคาคลินิก = ผลิตภัณฑ์ + ค่าหัตถการแพทย์ (อุปกรณ์ปลอดเชื้อ, ห้องหัตถการ, ติดตามผล)
Cold-chain
Traceability
Aftercare
ตัวอย่างเปรียบเทียบต้นทุนภาษี (ฐาน CIF = 115 หน่วย)
| กรณี | อากรขาเข้า | VAT 7% | รวมภาษีที่จ่าย | ข้อสังเกต |
|---|---|---|---|---|
| ปกติ (อากร 10%) | 10% ของ 115 = 11.5 | 7% ของ (115 + 11.5) = 8.855 | 20.355 | อากร + VAT บนฐานที่รวมอากร ⇒ ภาระสูง |
| ใช้สิทธิ FTA (อากร 0%) | 0 | 7% ของ (115 + 0) = 8.05 | 8.05 | ยังมี VAT และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ แม้อากร 0% |
แนวทางสำหรับคลินิก: โปร่งใส ปลอดภัย ตรวจสอบได้
- ✅ ตรวจสอบว่าเป็นสินค้านำเข้า ถูกกฎหมาย และมี เลข อย.
- ✅ ใช้ GS1 DataMatrix สแกนตรวจสอบข้อมูลสินค้า/ล็อต
- ✅ สื่อสารให้ผู้รับบริการเข้าใจว่า ราคาสุดท้ายรวมค่าบริการทางการแพทย์ แล้ว
- ✅ เก็บหลักฐานนำเข้าและ Traceability ของล็อต เพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง
สรุปภาพรวม
ราคาสูงขึ้น มาจาก โครงสร้างต้นทุนซับซ้อน ตั้งแต่ภาษี, ค่าขนส่ง (CIF), กระบวนการทางกฎหมายของ อย., ต้นทุนบริหารจัดการในประเทศ ไปจนถึง ค่าบริการทางการแพทย์ ที่จำเป็นต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

