💰 ทำไมโปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีเมื่อเข้ามาไทยถึงราคาสูงขึ้น?

📅 เผยแพร่: 26 สิงหาคม 2025 · 📂 หมวด: บทความความรู้สำหรับคลินิก

🔍 โปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพคุ้มค่า แต่เมื่อวางจำหน่ายในไทย ราคามักสูงกว่าหน้าโรงงานในเกาหลี บทความนี้สรุปองค์ประกอบต้นทุนที่ทำให้ “ราคาในไทย” สูงขึ้นอย่างมีเหตุผล—ตั้งแต่ภาษีนำเข้า/ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ค่าโลจิสติกส์แบบ CIF, ค่า อย. และเอกสาร License per Invoice (LPI) ต่อชิปเมนต์, เอกสารสิทธิพิกัดภายใต้ FTA (Form AK) ไปจนถึงต้นทุนกระจายในประเทศ—เพื่อช่วยให้คลินิกตัดสินใจบนฐานข้อมูลจริง

📊 โครงสร้างต้นทุนโปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีในไทย

📋 สารบัญ

  • 🏛️ โครงสร้างภาษี: อากรขาเข้า + VAT 7%
  • 🚚 โลจิสติกส์และมูลค่า CIF
  • 📋 กระบวนการ อย. และเอกสาร LPI
  • 🏪 ต้นทุนกระจายในประเทศและบริการคลินิก
  • 🧮 ตัวอย่างสถานการณ์ (สมมติ)
  • 💡 แนวทางสำหรับคลินิก

🏛️ 1) โครงสร้างภาษี: อากรขาเข้า + VAT 7%

📊อากรขาเข้า (Import duty) คำนวณบนมูลค่า CIF (Cost + Insurance + Freight) ตามพิกัด HS ของสินค้า และอัตราภาษีที่ใช้ (MFN/สิทธิพิเศษ FTA ตามถิ่นกำเนิด)

🧮 สูตรคำนวณโดยย่อ

1
ภาษีนำเข้า = CIF × อัตราอากร
2
VAT 7% = (CIF + อากรขาเข้า) × 7%
⚠️ เมื่อค่าขนส่ง/ประกันสูงขึ้น CIF สูง → ฐานภาษีสูงขึ้นทั้งอากรและ VAT

🇹🇭 ไทยใช้ VAT 7% (อัตราลดชั่วคราวจาก 10%) ต่อเนื่องถึงอย่างน้อย 30 กันยายน 2025 ตามกรอบนโยบายปัจจุบัน

🤝 สิทธิพิกัดภายใต้ FTA (ช่วยลดอากรได้)

การนำเข้าสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดเกาหลีใต้อาจใช้สิทธิภายใต้ ASEAN–Korea FTA ได้ เมื่อมี Certificate of Origin: Form AK ครบและเข้าเงื่อนไขถิ่นกำเนิด อัตราอากรหลายรายการอาจลดลงเหลือ 0% (ยังคงเสีย VAT 7%) ทั้งนี้ ต้องเตรียมเอกสารและผ่านขั้นตอนตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง

🚚 2) โลจิสติกส์และมูลค่า CIF: ต้นทุนที่ “งอก” เป็นฐานภาษี

📦CIF รวม “ราคาโรงงาน + ค่าขนส่งระหว่างประเทศ + ค่าประกันภัย” และเป็นฐานสำหรับคำนวณทั้งอากรและ VAT นั่นหมายความว่า การขนส่ง/ประกันที่สูงขึ้น จะทำให้ “ภาษีที่ต้องชำระ” สูงตามโดยอัตโนมัติ

🏭

ราคาโรงงาน

ต้นทุนการผลิตและกำไรของผู้ผลิต

🛡️

ค่าประกันภัย

ป้องกันความเสียหายระหว่างขนส่ง

✈️

ค่าขนส่ง

การขนส่งระหว่างประเทศ

🌡️ ข้อกำหนดพิเศษสำหรับโปรแกรมฟิลเลอร์

  • ❄️ โปรแกรมฟิลเลอร์ต้องดูแลการขนส่งและเก็บรักษาตามคำแนะนำผู้ผลิต (เช่น ควบคุมอุณหภูมิ/ป้องกันการกระแทก) ต้นทุนแพ็กกิ้งเฉพาะทางและ SLA ขนส่งจึงสูงกว่าสินค้าทั่วไป
  • 🏪 เมื่อสินค้ามาถึงไทย ยังมีค่าโลจิสติกส์ภายใน (คลังสินค้า, กระจายสินค้าไปยังคลินิก, ระบบติดตามล็อต) ที่สะท้อนในราคาขายส่ง

📋 3) กระบวนการ อย. และเอกสาร LPI ต่อชิปเมนต์

🚚 กระบวนการโลจิสติกส์และการกำกับดูแลตั้งแต่โรงงานเกาหลีถึงคลินิกไทย

🏥 สินค้าภายใต้การกำกับของ อย. ต้องขึ้นทะเบียน/ได้รับอนุญาตก่อนจำหน่าย ในขั้นตอนผ่านด่านศุลกากร ต้องขอเอกสาร License per Invoice (LPI) สำหรับแต่ละการนำเข้า (แต่ละใบอินวอยซ์) เพื่อผูกข้อมูลสินค้า/ล็อตกับใบขน—ขั้นตอนนี้เพิ่มทั้ง เวลา และ ต้นทุนปฏิบัติการ ของผู้นำเข้า

💻 ระบบ LPI คืออะไร?

  • 🔗 LPI เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อมกับด่าน อย. และศุลกากร ช่วยตรวจความสอดคล้องของสินค้าในชิปเมนต์กับใบอนุญาต/ทะเบียน
  • 💰 ยังมีค่าแปลเอกสาร, ค่าตรวจสอบ, ค่าตัวอย่าง/ทดสอบ (ถ้าร้องขอ), ค่าที่ปรึกษากฎระเบียบ ฯลฯ ที่เกิดในกระบวนการคอมพลายแอนซ์

🏪 4) ต้นทุนกระจายในประเทศและบริการคลินิก

🏢 หลังผ่านพิธีการนำเข้า ต้นทุนยังรวมถึง: ค่าคลัง/อุณหภูมิ, ระบบติดตามล็อต (traceability), ค่าแรงและการฝึกทีมขาย, มาร์เก็ตติ้งเชิงวิชาชีพ (เช่น เอกสารข้อมูลให้คลินิก) ไปจนถึง ค่าบริการทางการแพทย์ ของคลินิก (ค่าฝีมือแพทย์, อุปกรณ์ปลอดเชื้อ, ห้องหัตถการ, การติดตามผล) ซึ่งสะท้อนในราคาที่ผู้บริโภคเห็น

🏭

คลังสินค้า

การเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม

📊

ระบบติดตาม

Traceability และการจัดการล็อต

👨‍⚕️

บริการแพทย์

ค่าฝีมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์

📈

การตลาด

การฝึกอบรมและสื่อการตลาด

💡 ข้อควรรู้: ราคา “เข็มฉีด” ในคลินิกจึงไม่ใช่แค่ราคา “หลอดโปรแกรมฟิลเลอร์” แต่เป็นราคาที่รวมความปลอดภัยและบริการทางการแพทย์ครบวงจร

🧮 5) ตัวอย่างสถานการณ์ (สมมติฐานเพื่อการอธิบาย)

📊 ตัวอย่างการคำนวณต้นทุน

🏭 สมมติราคาโรงงาน 100 หน่วย + ค่าขนส่ง/ประกัน 15 หน่วย ⇒ CIF = 115

💰 กรณีที่ 1: อัตราอากรปกติ 10%

1
ภาษีนำเข้า = 115 × 10% = 11.5 หน่วย
2
ฐาน VAT = 115 + 11.5 = 126.5 หน่วย
3
VAT 7% = 126.5 × 7% = 8.855 หน่วย
4
ภาษีรวม ≈ 20.355 หน่วย

⚠️ (ยังไม่รวมค่า อย./LPI/โลจิสติกส์ในประเทศ/มาร์เก็ตติ้ง/บริการแพทย์)

🤝 กรณีที่ 2: ใช้สิทธิ FTA (อากร 0%)

1
ภาษีนำเข้า = 115 × 0% = 0 หน่วย
2
ฐาน VAT = 115 หน่วย
3
VAT 7% = 115 × 7% = 8.05 หน่วย
4
ภาษีรวม = 8.05 หน่วย

💡 ภาษีรวมลดลงมาก แต่ยังมีต้นทุนคอมพลายแอนซ์อื่นที่ต้องคำนึง

💡 6) แนวทางสำหรับคลินิก: ปลอดภัย โปร่งใส คุ้มค่า

ตรวจสอบความถูกต้อง

เช็กว่าเป็นสินค้านำเข้าอย่างถูกกฎหมาย (มีเลข อย./ผู้นำเข้าถูกต้อง)

📱

ใช้เทคโนโลยี

ใช้การสแกน GS1 DataMatrix (GTIN/LOT/EXP/Serial) เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

💬

สื่อสารโปร่งใส

อธิบายให้ผู้รับบริการเข้าใจว่าราคารวมบริการทางการแพทย์

📋

เก็บหลักฐาน

เก็บหลักฐาน LPI/ล็อตในระบบคลินิกเพื่อการติดตามย้อนกลับ

📝 สรุป

💰 ราคาโปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลีในไทยสูงขึ้นจากองค์ประกอบหลายด้าน: โครงสร้างภาษีนำเข้า + VAT 7% (บนฐาน CIF), ค่าโลจิสติกส์/ประกัน, กระบวนการ อย. และ LPI ต่อชิปเมนต์, ต้นทุนคอมพลายแอนซ์/การกระจาย และค่าบริการทางการแพทย์ในคลินิก การเปรียบเทียบราคา “หน้าโรงงาน” กับ “ราคาในคลินิกไทย” จึงควรคำนึงถึงบริบทต้นทุนทั้งหมดเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง


📚 แหล่งข้อมูลอ้างอิงสาธารณะ

  1. 🏛️ VAT ไทย 7% (กรอบเวลานโยบาย): PwC Thailand / กรมสรรพากร
  2. 📦 หลักการคำนวณอากรบนฐาน CIF และพิธีการศุลกากรไทย: DHL / ผู้ให้บริการโลจิสติกส์
  3. 🏥 Thai FDA — ระบบ License per Invoice (LPI) สำหรับสินค้าสุขภาพ/เครื่องมือแพทย์
  4. 🤝 ASEAN–Korea FTA — Certificate of Origin: Form AK
  5. 🌍 WTO/Trade.gov — บริบทอัตรา MFN Applied โดยรวมของไทย

🏷️ คีย์เวิร์ด: โปรแกรมฟิลเลอร์เกาหลี, ราคาโปรแกรมฟิลเลอร์ไทย, ภาษีนำเข้าโปรแกรมฟิลเลอร์, VAT 7%, LPI, อย., Form AK, โลจิสติกส์ CIF

📞 ติดต่อ EXQUILLER THAILAND

🏢 บริษัท เอคซควิลเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
📍 88/59 หมู่ 5 ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดลพบุรี 15120
📞 โทรศัพท์: 0968361130
🌐 เว็บไซต์: www.exquilerthailand.co.th
📘 Facebook: ExquillerThailand
📷 Instagram: @exquiller_thailand
💬 LINE: https://lin.ee/Mc9SNZj